วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

๏ หลังดวงจันทร์ลาลับใครจะซับน้ำตา ๚ะ๛

...

  โลกระบัดระบายเพลงพรายภาพ

สังคมศิโรราบในหวาบหวั่น

โชนเอาดวงดาวฉายประกายชั้น

ก่อปราการกักกั้นพันธนา



เนิ่นนานเสี้ยวนาทีแห่งชีวิต

มโน-ราคะจริตประจันหน้า

แหละไม้ใบดอกรวงล้วนลวงตา

เบ่งบานปรารถนาในนาคร



สัมผัสรักกลิ่นอายสายลมกรุ่น

ก่อนทั้งฝ้าทั้งฝุ่นจะหมุนฟ่อน

สะทกบนความเศร้าเงาสะท้อน

ถมทับละเอียดอ่อนด้วยหยาบช้า



ลมระบัดระบายใบไม้ร่วง

พัดสภาวะปวงปรารถนา

กว่าดวงจันทร์จ้าจางจนร้างลา

จักหลบซ่อนน้ำตาให้ใครซับ ๚ะ๛






_______________

         ว ฒ น

        1     มิ ย 52

http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=806508

 




จะด้วยพลาดหรือพลั้งเผลอใดใดก็ตาม
นับเป็นความสูญเสียอิสรภาพความรู้สึกครั้งใหญ่ของผู้ที่เกี่ยวข้อง
เมื่อหยอกล้อโลก โลกก็หยอกล้อด้วยเป็นธรรมดา

งดงามต่างๆมีขีดจำกัดของมันในความยาก-ง่าย
ความพอดีต่างหากที่เป็นตัวชี้วัดความไม่พอดี

ผมไม่อาจล่วงรู้จิตใจของใครต่อใครได้
นอกจากอ่านจากการกระทำ การกระทำซึ่งมนุษย์เราก็มีทั้งผิดและถูก

เป็นผิดและถูกที่นับวันจะมากขึ้น
มากขึ้นและมากขึ้นสวนทางกับคำว่าอภัย
ที่เหลือน้อยลงทุกขณะ

ไม่มีความคิดเห็น: