๏จ่อมจมจินตนาการจนผ่านร้าง
มีมากบ้าง,น้อยบ้างอย่างยุคสมัย
ถนนเคยตลบอบอวลสวนดอกไม้
ประดับประดาเสาไฟกระพริบรับ
๏ คงเพียงความว่างเปล่าใต้เงาโลก
ลืมหมดสิ้นความโศกถูกโขกสับ
เสียงแห่งการไห้ห่มเท่าถมทับ
หลงกักกันความลับในอกร้อน
๏ สวัสดีความเป็นไปไร้สุ้มเสียง
เมืองนี้ไกลปืนเที่ยงกว่าเก่าก่อน
วันวานแดดเปรี้ยงกว่าทั้งนาคร
กลับไม่มีคำอวยพรกลางช่อพฤกษ์
๏ เจ้าเป็นจริงทักทายก่อนบ่ายหน้า
ดื่มด่ำในมิถุนาจนดื่นดึก
ชนแก้วเถอะความช้ำเชิญสำนึก
เก็บไว้เป็นที่ระลึกเมื่อสร่างรัก
๏ เอื้อมมือวางดอกไม้จันทน์หันหลังกลับ
งานศพความสับปลับแห่งกับดัก
จริยธรรมพล่อยพล่อยพลอยพยัก
ยิ่งยินเสียงแช่งชักยิ่งชอกช้ำ ๚ะ๛
______________
ว ฒ น.
9 มิ.ย.52
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=808056
กับการที่ต้องลืมอะไรสักอย่าง มันยากเกินกว่าหัวใจจะเป็นผู้กำหนดจินตนาการที่เคยเติบโตไปไกลลิบ ก็กลับคืนสู่สำนึกแห่งสามัญ
ความฉาบฉวยที่ไล่คว้าไว้เพื่ออะไรก็ตามแม้สุขก็เพียงชั่วครู่ชั่วยาม เพียงเพราะทุกข์ที่ถมทับมันสาหัสอยู่นักในเบื้องหลัง
หากโลกไม่ได้ตาบอดเพียงข้างเดียวก็ย่อมเห็นอะไรที่ชัดแจ้งอย่างเต็มสองตาเมืองนี้มันกว้างกว่าที่เคยกว้าง
เมื่อมีแรงกดก็มีแรงต้านเป็นธรรมดาในวันที่ทัศนคติถูกปิดล้อม ใครจะเป็นผู้ฝ่าด่านออกมาปลดปล่อยแด่เมืองที่คนใส่ใจกับการเกิดของแพนด้า มากกว่าการตายของมนุษย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น