...
๏ เสวนาทั้งมรรคาสมาถก
มิดื่นดกเท่าปรางค์รัตน์ปราสาทส่ำ
โอ้มนุษย์สุดถวิลศิลปกรรม
เมาโลกจนริยำอธรรมสะท้าน
๏ อารักเอยมิแลเห็นแม้เส้นหญ้า
รัตนโกสิทร์ซาแล้วสสาร
สุนทรีกระแทกท้าทุกสาธารณ์
ทุกข์นานัปการทุดร่านทึ้ง
๏ ราคะสูงสุดหล้าเทียมผาเศวต
วิปโยคแอภพรีเชษฐ์จนบวมฉึ่ง
เอยอัตตาอัตตผูกกระดึง
ลมพระพายผาดผึงถึงนิพพาน
๏ แค่สิ้นแสงสุริยาอย่างสาหัส
โลกร้อนระบอนระบัด ณ พัสถาน
นฤมิตปรารถนาอุบปาทาน
จึ่งแจ้งจินตนาการแล้วหัวใจ
๏ ยิ่งยากยิ่งยื้อยุดพิสุทธิ์ศิลป์
ส่ำวิญญาณย่อมยังยินดีไฉน
อโยธยาล่มแล้วก็แล้วไป
บทกวีซีไรท์มีราคา
๏ พิสุทธิ์แห่งมรรคามหาสมัย
สองดวงตาแลวูบไหวในคุณค่า
อำไพพุทธิพงศ์องค์อินทรา
นิพพานข้างโซดาเถอะนิพพาน
๏ เจ็บใจจริตมนุษย์สุดทั้งโลก
ชะลืมตักน้ำชะโงกส่องสังขาร
อาดูรพูนสะพรั่งเสียตั้งนาน
โถทุนนิยมสามานย์อนิจจา
๏ โอ้ทิพย์วิมานทองที่ปองปักษ์ ฯ
โอ้พระมหาชะนักท่านนักหนา
โอ้จักรวาลในตะหวักนั่นหักคา
โอ้เจ้าดวงดาริกาจะก่อการ
๏ ฤๅรู้สึกพึ่งจักโศกโลกสลาย
อัตตาหิถึงได้ส่ายมหาศาล
ลมหายใจผ่าวแผ่วแววตระการ
กระวีวานเฉลาฉลักซึ่งมรรคา
๏ เสียเจ้าราวโล้มโนล้ม
มุ่งปรารถนาระทมละก็กล้า !
มิหวังแม้กระทั่งกลับนั่งคา
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น