วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

๏ อาเพศ ๚ะ๛

..


๏ สมรรถนะความเสื่อมซ้ำเหลื่อมซ้อน
เหตุ-ผลอันละเอียดอ่อน,หยาบกระด้าง
ประเทศอันอ่อนไหวยิ่งไร้ยาง
ตื่นกับความแตกต่างเข้าใกล้ตัว



๏ เจ้าหัวใจอย่ากำเริบและเสิบสาน
รีบก้มหัวกับมาตรการรู้ดีชั่ว
ระหว่างดินกับฟ้า,กล้ากับกลัว
จงร่ำไห้กันให้ทั่วหัวระแหง



๏ เพียงแผ่นดินเป็นธรรมอย่างล้ำหน้า
ยุคสมัยวิวัฒนาข้ามเส้นแบ่ง
มหานครสำส่อนนอนตะแคง
ฎ.ชฎาตีแปลงปรากฏกาย


๏ เพราะรากฐานแห่งอำนาจผู้หวาดหวั่น
จึงได้กีดกันจนก้าวก่าย
จ่อมจมในจงรักจักแพร่งพราย
จึงออกหน้าไม่อายอันอวบอั๋น



๏ จากเบื้องหลังสู่เบื้องหน้ามหาสมัย
กล่าวโทษความจัญไรใครปลุกปั่น
มองไม่เห็นความโฉดเขาโจษจัน
ระยะนรก-สวรรค์กระชั้นชิด



๏ เส้นชนชั้นเว้นช่องว่างถูกถ่างออก
เมืองก็ยิ่งช้ำชอกความถูก-ผิด
โลกฤๅยิ่งโศกสลดทศพิธ ...
จงรีบสละชีวิตรักษาอวัยวะ !

.........

วฒน
14 ก.ค.52
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=817528


วันนี้ไม่รู้ว่าอาเพศต่างๆที่เกิดซ้ำซ้อนในบ้านเราเกิดชึ้นได้อย่างไร
ผมตะแคงหัวคิดเป็นวิทยาศาสตร์ทุกด้านแล้วมันก็ออกมาได้มุมเดียว เป็นมุมที่ถ่วงความเจริญมาช้านาน
ระบบอุปถัมป์ค้ำชูวิวัฒนาการไปในทางที่ผิด ต่อยอดกันมายาวนานภายใต้คำว่าจริยธรรม
นี่คือการตอบโจทย์ที่เหลวแหลกแห่งยุคสมัยไอโฟน ...


อัจฉริยะกันเป็นหย่อมๆ ปล่อยให้สิทธิบัตรแปลกปลอมต่างๆเกิดขึ้นมากมาย
มากมายพอๆกับที่บางตระกูลแข่งกันเป็นเอกในแขนงต่างๆอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
ยังแอบคิดไปว่าใจคอจะไม่ว่างโง่กันสักคนหรืออย่างไร ?


ก็ในเมื่อมหานครเราขวักไขว่ไปด้วยอัจฉริยบุคคล ทำไมมันถึงเดินย่ำเงานานาประเทศอยู่อย่างนี้
ทำไมคนโกงถึงเต็มเมือง ขณะที่คนดีที่ผ่านมานั่งงอมืองอเท้ากันอยู่ซอกหลืบไหน


เหตุผลต่างๆที่ยกอ้างกันเพื่อกีดกันคนเก่ง คนทำงาน ไม่ใช่การทำงานล้มเหลว แต่เป็นการคิดล้มล้าง
เหตุผลที่อารยประเทศพากันส่ายหัวกับการรัฐประหาร การก้าวข้ามอำนาจรัฐเข้าสู่กระบวนการปกครอง
เหตุผลที่อารยประเทศหาวิธีพิสูจน์เพื่อทราบถึงข้อเท็จจริง
กลับเป็นเหตุผลที่บางประเทศแถบตะวันตกเฉียงใต้เรียกมันว่ากรรม ...


................

ไม่มีความคิดเห็น: