วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

๏ ก่อนสิ้นเสียงนกแสกสิ้นแสกเสียง ๚ะ๛

...



๏ มหานครวิตกกับนกแสก
ขณะความแตกต่างถูกสร้างเสริม
อำนาจถูกหนุนให้ใครเหิมเกริม
จากแตกแยกจนบริบทเริ่มบทสุดท้าย


๏ ทุกตรรกะสัมปชัญญะทุกสติ
เสรีภาพเขาอัปเปหิจากจุดหมาย
เผาไหม้เมืองทั้งเมืองจนวอดวาย
กอดคอเห็นแก่ได้โดยดึงดัน


๏ เงื่อนไขถูกปกปิดการปรากฏ
เงื่อนงำคำโป้ปด,การหยามหยัน
กติกาเหยียบย่ำกระทำกัน
ภายใต้ยุคสมานฉันท์น้ำลายย้อย


๏ หะหายโลกทั้งโลกยิ่งโศกสงัด
ท่านผู้ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยายังพูดพล่อย
หมู่เมฆลอยลับเลื่อนเข้าเคลื่อนคล้อย
บดบังซ้ำสวมรอยระยับฟ้า


๏ โอ้อุกาฟ้าดำคล้ำและครึ้ม
เสรีภาพอึมครึมท่านเจ้าขา
มหานครมืดมิด,วิกฤตศรัทธา
อำมาตย์หวังตั้งโต๊ะเจรจาประชาชน ?


๏ ก่อนสิ้นเสียงนกแสกสิ้นแสกเสียง
เมืองจักแตกเป็นเสี่ยงเป็นล้นพ้น
กลิ่นคาวเลือดคลื่นเหืยนคลุ้งเวียนวน
หรือมันหอมเสียจนจำทนยอม ๚ะ๛


วฒน
16 กย 52

http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=837826


Unter...

ก่อนสิ้นเสียงนกแสกสิ้นแสกเสียง
เมืองจักแตกเป็นเสี่ยงสิ้นสลาย
กลิ่นคาวเลือดขานรับกับความตาย
ณ บั้นปลายกาลสมัยมหานคร

เมื่อส่ำสัตว์สมสู่สอดประสาน
มหานครอลังการความสำส่อน
ยังโง่งมจมกับ (กิน) (ขี้) (ปี้) (นอน)
เสวยสุขไม่ทุกข์ร้อนทุกเรื่องราว

ใช้วาจาพาทีบรรเทาทุกข์
เล่นสนุกกับสีสันปั้นเนื้อข่าว
ถึงเวลาปลาว่าไปกินดาว
ทุกเรื่องฉาวชั่วช้าชมว่าดี

หมดเวลาเจรจาหาทางแก้
สถานการณ์ผันแปรถึงวันนี้
ประเทศเป็นเช่นวิก ยอวาที
แล้วจะมีทางออกใดให้ไทยแลนด์

.....................

ไม่มีความคิดเห็น: