วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

๏ ท่วมหัว ๚ะ๛

...

๏ หลังปฏิบัติการล้อมปราบจนราบเรียบ
เจ้าหัวใจเย็นเฉียบก็ฉาบฉาย
เลือดแห่งเผด็จการฉีดและกรีดกราย
อำนาจยังแผ่ขยายโยงสายใย

๏ ข่าวจุดยืนมวลชนอันข้นแค้น
คนทั้งขุ่นทั้งแค่นในความใคร่
สื่อปกปิดความเศร้าโศกโลกทั้งใบ
เพื่อสนองคุณใครที่เคารพ

๏ ใช่สนองคุณคนทุกชนชั้น
ผู้ปกครองสมานฉันท์กับซากศพ
ปัดสิ้นปรารถนาองคาพยพ
หลังกลางเมือง,สนามรบเสียงปืนลับ

๏ ทุกฉบับหนังสือพิมพ์ที่เปิดอ่าน
ทั้งวิพากษ์วิจารณ์ไม่เป็นศัพท์
พร้อมเลือกข้างเลือกข้องไว้รองรับ
ยกฐานะเขยิบขยับผู้รับใช้

๏ สิ้นทั้งสารทั้งสื่อที่ถือมั่น
ล้วนแต่สามานย์กันเมื่อกลายใกล้
ทุกอักษรหนาวสั่นความจัญไร
ยอดขายห่างไกลจรรยาบรรณ

๏ หลังปฏิบัติการล้อมปราบจนราบเรียบ
เจ้าหัวใจเย็นเฉียบก็ผ่านผัน
กระดาษหนังสือพิมพ์เก่างามเงามัน
ขยับราคาขายฝันอีกขั้นแล้ว ๚ะ๛

___________
ต้องย้ำตัวเองอยู่หลายครั้งว่าจรรยาบรรณกับยอดขาย
มันไม่สามารถไปพร้อมๆกัน ในทิศทางเดียวกันได้สำหรับสื่อ

ปัจจัยต่างๆเป็นตัวกำหนดขนาด,สีและรูปแบบของอักษร
ไม่ใช่ข้อเท็จจริงของข้อมูล หรือหัวใจ

ทุกยุคสมัยมีการแทรกแซงสื่อ ...
นี่เป็นเรื่องปกติของรัฐบาลไทย?
แต่จะแทรกแซงน้อยมากแค่ไหน
แต่สื่อจะเสนอตัวให้แทรกแซงน้อยมากแค่ไหน
ใครจะตอบคำถามชั่วๆ ...ได้ดีเท่าสื่อเอง

ก็เห็นทั้งอัตตาและอัตราตกหล่นอยู่แถวหน้าแท่นพิมพ์หลายสำนัก
ไม่ทราบว่าได้เก็บได้กวาดกันไปบ้างหรือยัง ?

ผมถือวิสาสะเป็นห่วง
กลัวมันสูงท่วมหัวน่ะครับ ...

วฒน.
28 เม.ย.52
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=799343

วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2552

๏ จาก ๒๕๕๒ - ๒๕๙๐ ๚ะ๛

...
๏ บนเบื้องบาทวิถีที่เศร้าโศก
กี่บทเพลงกล่อมโลกจะเอนไหว
ยุติธรรมเคลือบเขลาหยอกเย้าไกว
ใช่ปรากฏเกลื่อนในสำนึกนั้น

๏ ทัพแห่งประชาชนพ่ายหายนะ
ย่ามใดถือสัจจะอันขบขัน
ยิ่งโกหกย้ำย้ำซ้ำทุกวัน
ยุคสมัยสมานฉันท์จากสัญจร

๏ ปกครองรัฐประจบประแจง,คนแช่งชัก
มหานครผู้เคยรักเร้นหลบซ่อน
ข้อเรียกร้องจากต้นกล้าประชากร
เหลือเพียงเสียงเห่าหอนจากหัวใจ

๏ หลังเบื้องบาทวิถีที่เศร้าสร้อย
คงไว้เพียงร่องรอยเขาใส่ใคล้
จิตวิญญาณไหว้เซ่นความเป็นไป
หลังฝุ่นควันเรืองไร,มีไฟร้อน

๏ โลกสะอื้นทรงจำอย่างย้ำชัด
ปัจจุบันวิบัติกว่ากาลก่อน
ไม่พอหรอกเสียงเพ้อพร่ำคำอวยพร
มันไม่สบสะท้อนทุกโสตทัศน์ ๚ะ๛
_________________
วฒน 23 เม.ย.52

http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=798388

หากการปักธงชาติหน้าบ้านช่วยเยียวยาประเทศได้ก็คงไม่มีสงครามใดใดเกิดขึ้นในโลก

และหากความคิดไหลผ่านสมองได้มากสุดเท่านี้ ...
ก็ว่าอย่ามีมันเลยครับสถาบันพระปกเกล้
าเมื่อย่ามใจจะยอยศให้กับสิ่งหนึ่งสิ่งใด
โดยขาดสติ และเหตุผลผิดชอบชั่วดีรองรับ
มันก็รังแต่จะเสื่อมโทรมทางความนึกคิด

จะมีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าความรู้สึกไร้ค่าลงทุกขณะที่มีชีวิตอยู่และต้องทนไร้ค่าไปอีกนานกว่าจะถึงเวลาตายที่ปรารถนา

หมายเหตุ ...ทุกครั้งที่ออกมาพูดอะไร อ.บวรศักดิ์ทำให้ความเป็นนักกฎหมายของตนเอง และคนรอบข้างลดน้อยด้อยศักดิ์ศรีลงไปทุกครั้ง

และไม่ทราบกว่าความเป็นมือกฎหมายของอาจารย์ จะไขว่คว้าตำแหน่งจากเผด็จการได้อีกสักกี่ครั้งนับจากนี้.

และหากจะมีการบวชเรียนอีกครั้ง ช่วยเจียดเวลาคิดและสงสารพุทธศาสนาสักนิดด้วยเถอะครับ

สวัสดีครับมิตรสหายลายพาดกลอนทุกท่าน

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

๏ เมืองถูกท่านเอาเปรียบ ..ท่านเจ้าขา ๚ะ๛

...

๏ ก็ในเมื่อยุติธรรมถูกย่ำเหยียบ
เมืองถูกท่านเอาเปรียบ ..ท่านเจ้าขา
สิทธิมนุษยชนจนระอา
เขาโทษฟ้าโทษฝนป่นปี้แล้ว

๏ จากปุจฉาถึงปุจฉาที่ถาโถม
น้ำคัดหลั่งล้นชโลมตั้งค่อนแก้ว
ไม่มีเลย,ไม่มีเลยวี่แวว
มัวรีดเลือดเอากับแมวสักกี่มื้อ

๏ มหานครหอนเห่าทั้งเถาเทือก
ปรากฏการณ์แดงเถือกไม่เห็นหรือ ?
ถึงนอนกอดศาสตราวุธกลัวหลุดมือ
จนไม่หือไม่อืออารยะ

๏ หากแผ่นดินนี้ไม่ไร้เท่าใบหม่อน
กำหนดการก็จะย้อนย้ำตรรกะ
ทบทวนในปรารถนาสถานะ
หวังว่ายเวียนราคะกี่คำรบ

๏ ยิ่งไม่ผ่องไม่ถ่ายอย่าหมายมั่น
ไม่มีใครนอนยันว่ากี่ศพ
อีกกี่ศกนักษัตรก็บัดซบ
เมื่อสิ้นแรงเคารพก็เหลือรับ

๏ ก็เมื่อความยุติธรรมถูกย่ำเหยียบ
ท่านกลับสวมรอยเสียบความสับปลับ
คับนี้เขาเลยแค้นนักแน่นคับ
มัวแต่กลัวเสียทรัพย์ที่สับซุก

๏ กูบ่ไร้เซชั่น , ยันให้อยู่
จงเหลือกตาที่เหลือดูทั้งทุกข์ – สุข
ก่อนไม่เหลือศิวิไลซ์สมัยยุค
เงินคงคลังสร้างคุกไม่พอครับ !

๏ นั่นเมื่อกลางใจคนมันข้นแค้น
ทั้งสองมือสองแขนเขาแค่นขับ
สงครามแห่งประชาจะถาทับ
พระเดชพระคุณรอรับกันไหวเรอะ

๏ ก็เมื่อความยุติธรรมถูกย่ำเหยียบ
ประชาชนถูกเอาเปรียบกันจนเปรอะ
อีกสักกี่ปรัชญาว่าไปเฮอะ ..
ย้อมแมวกันให้เยอะก่อนย่อยยับ ๚ะ๛

____________

คำเตือน : โปรดระวังเปรม ๒

สวัสดีครับ .
วฒน
21 เมย. 52

http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=797392

๏ ภายใต้ 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' ๚ะ๛

...

๏ ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ผู้ปกครองกำลังเผชิญกับวิกฤต
โลกกำลังรุมรุกทุกทุกทิศ
จากกฎหมายเบือนบิดบรรทัดฐาน

๏ ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
รัฐกำลังเผชิญความกร้าวกร้าน
กดปืนกราดความคิดจิตวิญญาณ
ถมทับวิจารณญาณและจุดยืน

๏ ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เมืองกำลังหมางเมินคนแสนหมื่น
เขากลัวซากโสมมจักล้มครืน
ปลุกความจริงฟื้นตื่นมาต่อตี

๏ ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ประชาชนต่างดุ่มเดินมาถึงนี่
ปลายทางความสับปลับแสนอัปรีย์
ที่ยกตนอ้ายอีในอาณัติ

๏ ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
มหานครเปิดประตูเชิญความวิบัติ
ขีดกรอบกรงข้องขับจับคนยัด
ขังความคิดอัตคัดในเขื่องคุก

๏ ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
คนบางกลุ่มสรรเสริญในความสุข
ออกกฎกั้นปรารถนาว่าบุกรุก
กระชับให้กลียุครุกประชิด ๚ะ๛
__________

๏ ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
มหานครกำลังเผชิญอภิสิทธิ์
ที่อวดโอ่โอหังขาดยั้งคิด
พร้อมเหยียบย่ำชีวิตให้ย่อยยับ

สวัสดีเช้าวันจันทร์ครับมิตร และสหาย
วฒน 20 เมย.52

http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=797001

วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2552

๏ ซากวิจารณญาณแห่งสยาม ๚ะ๛

...

๏ ถุยใส่ความชอบธรรม,สมน้ำหน้า
เที่ยวเล่นหูเล่นตาหาเหตุผล
ท่ามกลางเมืองอุตริโลกวิกล
ทั้งเบื้องล่างเบื้องบนมีเบื้องหลัง


๏ เร่เข้ามาปรากฏกายแล้วบ่ายหน้า
หลงอยู่ในมายาแค่ขาหยั่ง
ภาพอันแสนวิเศษทุเรศทุรัง
แท้เพื่อผุดยุดยังใช่ยั้งคิด


๏ ปรารถนาสูงส่งทรงกับทรุด
หลังซากปรักชำรุด,
วิกลจริต
เขียนประวัติศาสตร์ระยะสั้นกระชั้นชิด
ปกปิดความมืดมิดพลาดผิดเพี้ยน


๏ ถุยใส่แผ่นดินทองเถิดผองเพื่อน
หัวใจผู้มาเยือนยังคลื่นเหืยน

เจ้าขุนทองมาปล้นกฎมณเฑียร ฯ

ศักดินามาเปลี่ยนเป็นปล้นทรัพย์


๏ เอาเหอะความโอหัง,เชิญฝังราก
เมืองคงเหลือเพียงกากความสับปลับ
จริยธรรมเป็นง่อยและย่อยยับ
ตาหนึ่งตื่นตาหนึ่งหลับ
,อัประมาณ


๏ ถุยใส่ความชอบธรรม , ที่ย้ำคิด
ด้วยมโนสุจริต,
เดรัจฉาน
ขุดหลุมฝังความรักความดักดาน
ซากวิจารณญาณแห่งสยาม


๏ ถุยใส่ความสูงส่งอันทรงค่า
แท้ท่านเพียงต่ำช้า,
กล้าหยาบหยาม
ลากยุคสมัยลงเหวอย่างเลวทราม
หรือมันง่ายงดงามในสำนึก
?


___________


นึกว่าจะได้ขยับฐานะเป็นพลเมืองกับเขา ...

สวัสดีครับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยทุกท่าน

วฒน 16 เมย 52

http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=795682

๏ ขอสงวนสิทธิ์ในการใช้อาวุธ ๚ะ๛

...

ขอสงวนสิทธิ์ในการใช้อาวุธ
สงครามระหว่างทหารกับมนุษย์ก็ผุดโผล่
เสียงปืนปัดป้องเสียงร้องโฮ
อกาลิโกเกลื่อนกลับกลาย

๏ ก่อนกาลสู่กาลจักกร้านกร้าว
แสงเดือนดวงดาวดับสลาย
กองซากศพถมทับนับรอบราย
ไม่ปรากฏความหมายจากยุคสมัย

.๏ สิ้นสุด-เริ่มต้นเวียนวนว่าย
เกิดขึ้นล้มตายสายพันธุ์ใหม่
จิตวิญญาณถูกถอดถอนไปก่อนวัย
เขาสำเร็จความใคร่ทางความคิด


๏ กระนั้นเสียงโห่ร้องคงก้องฟ้า
รัฐประกาศศักดาอาญาสิทธิ์
เมื่อเมืองเล่นปาหื่ทุกชีวิต
ทฤษฎีสมคบคิดให้หลุดพ้น


๏ ประชาชนมือเปล่าเขาเข้าป้อง
สื่อลงดาบซ้ำสองว่าเข้าปล้น
ย้ำโยงต่อเนื่องยังเบื้องบน
ว่าระคายเคืองพระยุคล,คอมมิวนิสต์

๏ ซากเศษแห่งความรักสักการะ
เหลือเพียงซากเศษสวะที่เบือนบิด
ก่อกรรมยังกำพืดยิ่งมืดมิด
เส้นทางเดินของจริตเดินผิดพลั้ง


๏ ขอสงวนสิทธิ์ในการใช้อาวุธ
คำสั่งการจากมนุษย์ผู้วาดหวัง
เพียงให้ความมั่งมีนั้นจีรัง
ยอมให้ความบ้าคลั่งเข้าควบคุม

๏ ปรากฏเกิดในนามของความเกลียด
หลังเหตุการณ์ส่อเสียดคนซ่องสุม
ร้อยเพลิงจักเผาไทยเพลิงไฟรุม
หลังพิธีเปิดพานพุ่มวันพรุ่งนี้ ๚ะ๛


----------------------

ขอสงวนสิทธิ์ในการใช้ความรัก

วฒน 18 เม.ย.52

http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=796381

วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2552

๏ หมายจับ ๚ะ๛

...

๏ เฮ้ย ! นี่ก็อารยขัดขืน
ประชาชนไม่มีปืนและมือเปล่า
มากู่ร้องตะโกนกันปาวปาว
เรียกร้องเรียกเร้าประชาธิปไตย

๏ เฮ้ย ! นี่ก็อารยขัดขืน
ประชาชนไม่มีปืนกล่าวปราศรัย
ปิดถนนเพื่อทวงถามอธิปไตย
ที่ตกต่ำใต้ตีนอำมาตยา

๏ เฮ้ย ! นี่ก็อารยขัดขืน
เมืองกำลังแตกตื่นกับปุจฉา
ยุติธรรมศาลเต้าไม่เข้าตา
วิธีพิจารณาพจนานุกรม

๏ เฮ้ย ! นี่ก็อารยขัดขืน
แค่เรียกร้องจุดยืนอย่างเหมาะสม
ตราบเท่าที่โลกหมุน,ทุนนิยม
ผู้ปกครองโสมมยังมูมมาม

๏ เฮ้ย ! นี่ก็อารยขัดขืน
ประชาคมล้มครืนเขาก้าวข้าม
สมบูรณาฯรุกและคุกคาม
ระบบล้มระบอบลามและรวดร้าว

๏ เฮ้ย ! นี่ก็อารยขัดขืน
เสียงเด็กเมื่อวานซืนประกาศกร้าว
ให้กฎหมายต่อเนื่องทุกเรื่องราว
แพ้เป้นโจรชนะเป็นเจ้าก็เท่านั้น ! ๚ะ๛

________

สวัสดีวันเสาร์แห่งชาติครับ
วฒน 11 เมย 52


http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=791785

วันอังคารที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2552

๏ ก็ช่างป๋า .. ๚ะ๛

...

๏ สิ้นสุดวาสนามหากาพย์
วันนี้เพียงตราบาปอย่างหยาบหนา
เสียงสำรากจากปากป๋าออกมา
"ผมไม่เกี่ยว อย่ามากล่าวหาผม"

๏ นครนี้เป็นเสนียดเกียรติยศ
ผู้ปกครองโป้ปดจนเมืองล่ม
ว่ายเวียนปรารถนาแห่งอาจม
อีกกี่มือโสมมจักยื่นมือ

๏ ในมโนสำนึกที่สึกกร่อน
จิตวิญญาณ,ฐานันดรที่ยึดถือ
ประชาชนเขาทุกข์จนลุกฮือ
ยังตะพึดตะพือพัสถาน

๏ เป็นทางออกของป๋า,หาทางออก
อย่าได้คืบเอาศอกจนหงอกซ่าน
ลุ่มลึกอยู่ในรักจนดักดาน
หลงบำเหน็จบำนาญการบำเรอ

๏ เกี่ยวมั่งไม่เกี่ยวมั่งก็ช่างป๋า
อวดไปเถอะปรารถนาละเมอเพ้อ
รอยย่ำเท้ามากมายตั้งหลายเบอร์
อาจประทับใจเธอสักรอยเท้า ๚ะ๛

__________

สวัสดีเช้าวันที่ ๗ เมษายนครับ ...
ว ฒ น 7 เม.ย.52

http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=790651

๏ ระลอก ๚ะ๛

...

๏ ก่อนอรุณเริ่ม ...
รอเพียงแสงย้ำเติมระลอกใหม่
แว่วเสียงฟ้าฝากจากฟากไกล
ทุกซอกมุมตึกใดไม่ละเว้น

๏ "...สวัสดีราษฎรที่รัก .."
วันนี้เรามาทายทักความโลดเต้น
ทุกทุกสิ่งที่ยึดถือคือ,อยู่,เป็น
ซากปรักหักพังไม่เห็นต้องโหยหา

๏ อีกครั้งที่เรามาพบกัน
ก่อนมหานครตกมันและมันกว่า
มโหรีร้องรับประดับประดา
สวยเด่นเป็นสง่าสว่างไสว

๏ ก่อนกลีบดวงดอกไม้แสงสายส่อง
อาณาจักร-ผู้ปกครอง-ศักดินา-ไพร่
ข้อเรียกร้องยังเหลือเพื่ออะไร
ทำไมไม่เสพยุคสมัยให้เมามาย

๏ แน่ใจหรือว่าฟ้าใหม่แสงใสสวย
มีพันธุ์ไม้ระรินระรวยตามความหมาย
หากว่าฝันใฝ่มอดและวอดวาย
จะคืนกลับคงไม่ง่ายเท่าก่อนนี้

๏ "..สวัสดีราษฎรที่รัก.."
หากไม่รีบจงพำนักร่มวิถี
ไม่มีหรอกทั้งทุนทั้งฝุ่นธุลี
สะพานทอดไมตรี,ไม่มีทาง

๏ ฉันคือพระราชา
ผู้ไม่เคยปรารถนาความบาดหมาง
อย่าให้โลกเรี่ยร่ายเป็นรายทาง
เขาแอบอิงข้ออ้างอารยธรรม

๏ จะหนีหนาวอีกกี่โลกก็โศกเสมือน
ที่ใหม่ผู้ไปเยือนจะตกต่ำ
ประวัติศาสตร์วิวาทะชะตากรรม
ใช่เขียนเพื่อตอกย้ำการย่ำกราย

๏ เมืองแห่งนี้ยินดีต้อนรับ
ทุกมุมตรอกซอกอับขยับขยาย
ไม่มีฝันงอกงามจากความตาย
ยังดิ้นรนทุรายยิ่งไร้รอย

๏ "..สวัสดีราษฎรที่รัก.."
กลางเพลงทอถักความเศร้าสร้อย
เหยื่อแห่งผู้มาเยือนย่อมเลื่อนลอย
สูงสุดหรือต่ำต้อยเพียงมายา

๏ เชิญเถิดทัศนาเมืองปรากฏ
ดื่มด่ำความงามงดงดงามกว่า ..
มองลึกลึกสุดความหมายทุกสายตา
ก่อนแสงแห่งคุณค่าจะซาแสง ๚ะ๛

_________

สวัสดีครับพลเมืองทุกท่าน

ว ฒ น 6 เม.ย.52
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=790508

๏ กำแพง สะพานและประตู ๚ะ๛

...

๏ ผ่านกำแพงตระหง่านจะผ่านพ้น
สงครามแห่งชั้นชนนั้นรุกเริ่ม
ฉากแห่งความเคลือบแคลงถูกแต่งเติม
ผืนแผ่นดินแผ่นเดิมกลางแสงดาว

๏ การเรียนรู้จากสามัญขั้นสูงสุด
หลอมเหลาใจชำรุดจนเหน็บหนาว
บนความคิดอิสระระยะยาว
สะพานความปวดร้าวนั้นทอดตัว

๏ ต้นทางของวิบัติ,วัฏสังสาร
ได้รับรู้ฤดีกาลกันถ้วนทั่ว
ทั้งด้านมืดด้านเขลาด้านเมามัว
รอร่างเงาสลัวลาลับเลือน

๏ ร่ำไห้,เถิดประเทศชาติหวาดผวา
เมื่อเหลวแหลกปรารถนาทิศทางเถื่อน
หลังมวลคนเมืองร้างกลางแสงเดือน
อาณาจักรผู้มาเยือน,เกียรติยศ

๏ ข้ามมาเถิดข้ามสะพานเพื่อผ่านพ้น
เป็นกบฏต่อเบื้องบนเถิดกบฏ
เร้นกายออกจากฝันอันรันทด
หลีกหนีความโป้ปดพันธนาการ

๏ โลกโลดแล่นไล่ทันในวันนี้
ได้ไล่เผาความบัดสีเป็นเถ้าถ่าน
เพียงสะพานผ่านกำแพงผืนที่ยืนนาน
ประตูแห่งความดักดานจะปิดลง ๚ะ๛

_______________

ถึงวันนี้เราเลือกที่จะทำสะพานอ้อมไปอีกด้านของกำแพงเพื่อจะยังคงกำแพงนั้นไว้ให้เป็นสัญลักษณ์เพียงเพราะหวั่นว่ากำแพงจะพังครืนลงมาล้มทับผู้คนเป็นจำนวนมากเพียงเพราะว่าเรายังเห็นค่าและประโยชน์ของกำแพงในแง่สถาปัตยกรรมเพียงแต่ประตูใต้กำแพงบางบานจำต้องปิดตัวลงเพื่อรักษารากฐานของกำแพงเพียงแต่กำแพงต้องได้รับการซ่อมแซมบูรณะบ้างในบางจุดที่ทรุดเสื่อม เพื่อตัวกำแพงเองและมวลชนเหตุผลเพียงเท่านี้ มวลชนจำนวนมากจึงเลือกที่จะข้ามสะพานเพื่อรักษากำแพง ...

คำเตือน : โปรดอย่างยืนกลางสะพานเพราะมันจะขวางทางเดินเพคะ

ว ฒ น 5 เม.ย.52
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=790337

วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2552

วัฒน์ วรรลยางกูร

...

กวี รางวัลศรีบูรพา บนเวลาคนเสื้อแดงหน้าทำเนียบ 1 เมษายน 2552
*********

ถึงยุคทมิฬมาร จะครองเมือง ด้วยควันปืน
ขื่อแปจะพังครืน และกลิ่นเลือดจะคลุ้งคาว
แต่คนย่อมเป็นคน ในสายธารอันเหยียดยาว
คงคู่กับเดือนดาว ผงาดเด่นเหนือดินแดน

ถึงปืนก็เถอะปืน มึงยิงคนอย่าหมิ่นคาน
ใจสู้ นี้เหนือศาล กว่าปืนสูจะตัดสิน
คาวเลือดที่ไหลอาบ จึงกำซาบในเนื้อดิน
ปลุกใจอยู่อาจิณ ให้กวาดล้างพวกกาลี

ฟ้ามืด เมื่อมีได้ และฟ่าใหม่ย่อมคงมี
แสงทองเหนือธรณี จะท้าทายอย่างทระนง
เมื่อนั้นและคนนี้ จักยืดตัวด้วยหยัดตรง
ประกาศอย่างอาจอง กูใช่ทาสหากคือไท

------------