...
๏ กี่สมมุติฐานการก้าวล่วง
เมืองได้รับผลพวงผู้หมักหมม
แอบอิงปรารถนา,ค่านิยม
พอเผลอก็เสพอาจมสมบูรณา ฯ
๏ เขาเขียนวงจารีตขีดจำกัด
ใช้ความใคร่บำบัดใส่ความบ้า
อ้างความเหนืออันแตกต่าง,อ้างอาญา
เหยียบขี่หัวขี้ข้าให้คลุกดิน
๏ วันวานยังปลุกปั่นยันวันนี้
นครเถลิงความบัดสีไม่มีสิ้น
จากเชื้อไปสู่เชื้อเอื้อกันกิน
เสียงซุบซิบไม่ยลยินโลกหยามหยัน
๏ นิ่งเถอะความสามัญ,เขาสั่นหน้า
บอดใบ้ในเย็นชาสมานฉันท์
เสียงซุบซิบหลังจารีตถูกกีดกัน
ไม่มีใครปลอบขวัญอันสั่นเทา
๏ วันนี้ลมอาคเนย์ขับเห่กล่อม
จงรับความละมุนละม่อม,เชื่อฟังเขา
โดยบาปบุญคุณโทษ—โปรดอย่าเดา
เขาสั่งขังความเศร้าเท่าทุกคน ๚ะ๛
ภาคพระหนวก
๏ โดยบาปบุญคุณโทษที่โปรดสัตว์
สืบสายพันธุ์จากกำหนัดอันสับสน
ข้ามพงศ์ข้ามวงศ์ว่านสามานย์ชน
ประสมไปเปปนบนสวรรค์
๏ แหละโลกแปดสาแหรกเริ่มแตกร้าว
เพราะฝ่าก้าวแล้วจะร่วงจากห้วงฝัน
ก็เมื่อความบัดสีถูกรีรัน
จงฟอร์เวิร์ดอย่างสมานฉันท์เถอะสามัญชน
_________________
ผมถามความเงียบว่ายังจำเสียงอึกทึกครั้งนั้นได้อยู่หรือเปล่า
ความเงียบไม่ได้ตอบผม ....
..ผมก็ได้แต่เงียบ
วฒน
11 ก.ค. 2552
http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic.php?id=816490
วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น